|
พระสุพรหมยานเถร (ครูบาพรหมา พฺรหฺมจกฺโก)
๓๐ สิงหาคม ๒๔๔๑ - ๑๗ สิงหาคม ๒๕๒๗
วัดพระพุทธบาทตากผ้า อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน
คติธรรม คำสอน :
ชีวิตของเราทั้งหลายนั้นมันไหลไปตามกระแสแห่งความอยาก คือ ตัณหา มันจึงดิ้นรน วุ่นวาย เป็นทุกข์ทรมาน เพราะว่าเรา ไม่มีสติมากันกระแสแห่งตัณหา
... จำเป็นที่จะต้องปลูกสติ สร้างสติขึ้นให้แก่กล้า จึงจะสามารถปิดกั้นเสีย ซึ่งกระแสแห่งตัณหาได้
|
|
|
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
๒๐ สิงหาคม ๒๔๔๒ - ๔ มกราคม ๒๕๒๐
วัดป่าอุดมสมพร อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร
คติธรรม คำสอน :
พุทธะ คือผู้รู้ ความรู้นี้ไม่ใช่มืด ไม่ใช่สว่าง ไม่ใช่แจ้ง ไม่ใช่หลง
ความที่มันหลงเราก็รู้อยู่ มืดเราก็รู้อยู่ สว่างเราก็รู้อยู่ สุขมันก็รู้ ทุกข์มันก็รู้ ยังงี้
|
|
|
หลวงปู่หลุยส์ จนฺทสาโร
๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๔๔๔ - ๒๕ ธันวาคม ๒๕๓๒
วัดถ้ำผาบิ้ง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย
คติธรรม คำสอน :
กิเลสมีร้อยแปดประตู แต่พุทโธ มีประตูเดียว เพราะฉะนั้น ให้ฝึกหัดปฏิบัติให้คุ้นเคย
วาระที่เราจะเปลี่ยนภพเปลี่ยนชาติ เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด ดังนั้นจงเพียรฝึกจิตให้คุ้นไว้กับพุทโธ
|
|
|
หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๔๔๔ - ๘ มกราคม ๒๕๓๘
วัดป่าสัมมานุสรณ์ บ้านโคกมน ตำบลผาน้อย อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย
คติธรรม คำสอน :
บ่ ต้องเสียใจ ดีก็ช่าง ร้ายก็ช่าง (หมายถึงการปล่อยวาง)
|
|
|
หลวงปู่คำดี ปภาโส
๒๖ มีนาคม ๒๔๔๕ - ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๒๗
วัดถ้ำผาปู่นิมิตร ตำบลนาอ้อ อำเภอเมือง จังหวัดเลย
คติธรรม คำสอน :
เรื่องบาปกรรมย่อมไม่ยกเว้นให้กับใครทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นพระเณร หรือเจ้านายชั้นไหนๆ ก็ตาม ถ้าทำบาปลงไปเป็นบาปทั้งนั้น ไม่มีการยกเว้นลำเอียง
... ความไม่ประมาท คือ เป็นผู้มีสติจดจ่ออยู่ที่ กาย และใจ ทุกอิริยาบถ .. ไม่มีการเผลอสติจากอิริยาบถทั้ง ๔ จึงจัดว่าเป็นผู้ไม่ประมาท
|
|
|
พระราชนิโรธรังสี (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
๒๖ เมษายน ๒๔๔๕ - ๑๗ ธันวาคม ๒๕๓๗
วัดหินหมากเป้ง อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย
คติธรรม คำสอน :
ผู้ใดทำให้ใจถึงความเป็นกลางได้ ผู้นั่นจะพ้นจากทุกข์ทั้งปวง
ผู้ที่จะพ้นจากทุกข์ได้ในโลกนี้ ก็ล้วนแล้วแต่ยกทุกข์ขึ้นมาเป็นเหตุทั้งนั้น
แท้จริงความนึกคิดไม่ใช่ทุกข์ แต่การไปยึดความนึกคิดมาเป็นของตน จึงเป็นทุกข์
|
|
|
หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ
๓ มิถุนายน ๒๔๔๕ - ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๔๒
วัดป่านิโคธาราม จังหวัดอุดรธานี
คติธรรม คำสอน :
ธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านี้ เป็นของเย็น เป็นของบริสุทธิ์
บุคคลผู้มีปัญญาจะไม่ปฏิเสธ ธรรมของพระพุทธเจ้า
เพราะธรรมถ้าอยู่ในจิตใจของผู้ใด ผู้นั้นย่อมมีความสุขความเจริญ
|
|
|
หลวงปู่ลี ธมฺมธโร
๓๑ มกราคม ๒๔๔๙ - ๒๖ เมษายน ๒๕๐๔
วัดอโศการาม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ
คติธรรม คำสอน :
สมาธิเปรียบเหมือนตะปู ปัญญาเปรียบเหมือนค้อนที่ตอกตะปู ถ้าตะปูเอียงไปค้อนก็ตีผิดๆ ถูกๆ
ตะปูนั้นก็ไม่ทะลุกระดานนี้ฉันใด ใจเราจะบรรจุธรรมชั้นสูงทะลุโลกได้จะต้องมีสมาธิเป็นหลักก่อน
แล้วจึงเกิดญาณปัญญา ญาณนี้จะได้แต่คนทำสมาธิเท่านั้น ส่วนปัญญาธรรมดาย่อมมีอยู่ทั่วไปแก่คนทั้งหลาย
|
|
|
พระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ)
๒๗ พฤษภาคม ๒๔๔๙ - ๘ กรกฎาคม ๒๕๓๖
วัดธารน้ำไหล (สวนโมกขพลาราม) อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี
คติธรรม คำสอน :
มนุษย์เราจะเป็นมนุษย์อยู่ได้ ก็เพราะกำลังประกอบอยู่ด้วย ธรรม มิฉะนั้นจะต้องสูญเสียความเป็นมนุษย์ หรือต้องตาย ในที่สุด
โดยไม่ต้องสงสัย มนุษย์ที่ไม่ประกอบอยู่ด้วยธรรม ก็ต้องประกอบอยู่ด้วยอธรรม เป็นธรรมดา และจะต้องเป็นอมนุษย์ในร่างของมนุษย์
โลกนี้จะเป็นอย่างไร หากเป็นโลก ที่ประกอบอยู่ด้วยอมนุษย์ในร่างของมนุษย์ เต็มไปทั้งโลก
|
|
|
พระญาณสิทธาจารย์ (หลวงปู่สิม พุทธาจาโร)
๒๖ พฤศจิกายน ๒๔๕๒ - ๑๓ สิงหาคม ๒๕๓๕
วัดถ้ำผาปล่อง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
คติธรรม คำสอน :
การภาวนา เป็นเรื่องของการบำเพ็ญ เพื่อความสุข ไม่ใช่เพื่อความทุกข์ แม้จะมีความยากลำบากบ้างก็อย่าท้อถอย
ให้เห็นเป็นธรรมดาของการจะทำสิ่งมีค่าให้เกิดขึ้น
|
|
|